The Flying Guillotine – ฤทธิ์จักร พญายม (1974, Ho Meng Hua)

อาวุธนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่ง ของหนังกังฟู หรือกำลังภายใน นอกจากอาวุธปกติธรรมดาอย่าง ดาบ กระบี่ หรือธวน แล้วโลกแห่งหนังกำลังภายในยังมีการ สร้างสรรค์อาวุธพิสดารออกมา สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่คนดู และบนเขาสูง จุดสุดยอดแห่ง กระบวนอาวุธพิศดารนั้น จักรพญายม หรือ จักรโลหิต นั้นถือเป็นอันดับหนึ่ง และงานอย่าง The Flying Guillotine หรือ ฤทธิ์จักร พญายม ก็ถือได้ว่าเป็นต้นตำรับอาวุธแห่งตำนานดังกล่าว

จักรพญายม จักรโลหิต หรือ ฟลายอิ้งกิโยทีน ร้อยก้าว กงจักร (ที่รูปร่างเหมือน หม้อหุงข้าว หรือฝาชีครอบอาหาร อยู่เหมือนกันนะครับ) ควบคุมด้วยโซ่เหล็ก วิธีใช้ก็คือ เหวี่ยงจักรออกไปหาเป้าหมาย เพื่อครอบศรีษะ และบั้นคอตัดหัว ด้วยใบมีดที่ถูกควบคุมด้วยกลไก ตัวจักรด้านนอกยังประกอบด้วยใบมีด แหลมคม ที่หมุนด้วยความแรง และเร็ว ตามการหมุนของจักร จึงไม่อาจมีอาวุธใดสามารถปัดป้อง การทำลายของมันได้ จักรโลหิต จึงเป็นอาวุธสังหาร ที่ไร้ผู้ต้านทาน และไม่สามารถหลบหนีได้

หนังประเภท Flying Guillotine นั้นฮิตแบบเงียบในแบบหนังคัลท์ในหลายๆ ส่วนของโลก ด้วยภาพของ จักรโลหิต นำมาซึ่งเสน่ห์แบบแปลกๆ ภาพอันดูเหี้ยมโหดเกินธรรมดา เสียงจักรหมุนแสบแก้วหู สร้างความรู้สึกเสียวคอ ของผู้ชมเป็นอย่างดี หลักฐานความฮิตของ หนังแนวนี้ที่ชัดเจนที่สุดก็คือ อาวุธในหนังบูชาหนังคัลท์อย่าง Kill Bill ภาคแรก ที่ผู้กำกับควินติน ทารันติโน่ เอามาดัดแปลงผสม กับลูกดิ่งของสิงสาวนักสืบ เป็นอาวุธชินใหม่ ให้กับตัวละครสาวโหดในชุดนักเรียน ที่แสดงโดย ชิอากิ คูริยาม่า

ย้อนกลับไปที่ต้นฉบับอีกครั้ง หนังที่นำเสนอ Flying Guillotine นั้นมีด้วยกันหลายเรื่อง ทั้งแบบเต็มๆ หรือไม่ก็เป็นสีสรรค์ อย่างไรก็ตาม ถ้านับเอาเรื่องแรกที่แนะนำอาวุธสุดพิศดารประเภทนี้สู่ชาวโลก ก็ต้องพูดถึงหนังเรื่อง The Flying Guillotine ที่สร้างโดยชอว์บราเดอร์

หนังเล่าเรื่องในยุคสมัยชิง เมื่อฮ่องเต้โฉด หยงเจิ้น (เจียงหยาง) ขึ้นครองราช แต่เพียงยังไม่อาจครองอำนาจเบ็ดเสร็จ ในการปกครองได้ ขุนนางบางส่วนเริ่มแสดงออกถึงความกระด้างกระเดื่อง ไม่เชื่อฟัง หยงเจิ้น ไม่อาจอดทนต่อความแข็งขืนดังกล่าวได้ อีกต่อไป จึงคิดกำจัดเหล่าขุนนางแข็งข้อ

ฮ่องเต้หยงเจิ้น คิดออกคำสั่งประหารเหล่าขุนนางพวกนั้น แต่ไม่อาจทำได้อย่างเปิดเผย จึงออกคำสั่งแก่องค์รักษ์คนสนิท นามซินคัง (กุ๊ฟง) ให้คิดหาทางออกในการกำจัดผู้คิดไม่ภักดี ซินคัง ครุ่นคิดอยู่นาน ประดิษฐ์อาวุธลอบสังหารชนิดหนึ่งออกมาเรียกว่า “จักรโลหิต” สามารถลอบสังหารเป้าหมายจากระยะไกล ถึงหนึ่งร้อยเก้า ซินคัง พร้อมองค์รักษ์ผู้เยี่ยมยุทธ 12 คนถูกคัดเลือกมา ให้ฝึกฝนการใช้จักรโลหิต เพื่อจัดการกับบุคคลใดๆ ก็ตาม ที่คิดไม่ซื่อต่อหยงเจิ้น

หนึ่งในกลุ่มมือสังหาร หม่าถึง (เฉินกวนไท่) มีฝีมือที่โดดเด่นน่าจับตามองที่สุด ทั้งหมดเก็บตัวฝึกฝน การใช้จักรอยู่นานหลายเดือน จนกระทั่งเชี่ยวชาญ จากความแม่นยำระดับระยะไม่กี่หลา ก็เพิ่มขึ้นเป็นสิบ และจนกระทั่งเป็นร้อย โดยทุกขึ้นตอนถูกติดตามอย่าง ใกล้ชิดแต่ไม่เปิดเผยโดยฮ่องเต้

และแล้ววันแห่งการลงมือก็มาถึง มีคำสั่งมาถึง ซินคัง เหล่ามือสังหารเริ่มออกปฏิบัติงาน และกงจักรโลหิตก็เริ่มแสดงออกอนุภาพ เพื่อไม่กี่วันอำมาตที่กระด้างกระเดื่องต่อ ฮ่องเต้ก็ถูกสังหารไปสองคน แม้จะได้รับความสำเร็จในการปฏิบัติงาน อย่างง่ายดายแต่ หม่าถึง ก็เริ่มสงสัยถึงสิ่งที่ตนได้ทำอยู่ บุคคลที่ถูกสังหารปรากฏว่ามีแต่ขุนนางตงฉิน

แต่ความอดกลั้นของ หม่าถึง เดินทางมาถึงจุดที่ไม่อาจอดกลั้นอีกต่อไปได้เมื่อ เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มมือสังหาร (หวังยี่) กลับต้องโทษ และถูกสังหารด้วยจักรโลหิตเสียเอง เหตุเพียงเพราะไอ้หนุ่มนั้นไม่สามารถรับแรงกดดัน ต่องานมือสังหารได้อีกต่อไป หม่าถึง ตัดสินใจถอนตัวหลบหนี ออกจากตำแหน่งหน้าที่มือสังหารจักรโลหิต สร้างความไม่พอใจแก่ฮ่องเต้ ขึ้นบัญชี

ระหว่างการหลบหนี หม่าถึง ได้รับการช่วยเหลือจากสาวชาวบ้านนาม อี้ถิง (หลิวอูจื่อ) จนเกิดซึ้งในน้ำใจของนาง เกิดเป็นความรัก ทั้งสองใช้ชีวิตสมถะ อาศัยอยู่กระท่อมเล็กๆ ทำไร้ไถไนเพื่อหาเลี้ยงชีพหลีก หนีจากความวุ่นวายต่างๆ นาๆ เพื่อให้เบาะแสของสถานณะความเป็นอยู่ของ หม่าถึง หายไปจากยุทธจักรเพื่อป้องกัน จากการตามล่าของมือสังหารจักรโลหิต

จนกระทั่ง อี้ถิง ตั้งครรถ์ และถึงกำหนดคลอด หม่าถึง จำต้องเข้าเมืองเพื่อตามหมอตำแย ความเคลื่อนไหวของเขากลับ ไปเข้าตาเหล่ามือสังหารจนได้ หลังการหลบหนี และใช้ชีวิตอย่างสงบนานหลายปี ในที่สุดก็จบลง ชตากรรมของ หม่าถึง และ จักรโลหิต ก็เวียนมพบอีกครั้งในที่สุด

The Flying Guillotine กำกับโดยผู้กำกับรุ่นลายคราม เหอเมิ่งหัว (Ho Meng Hua) แม้จะสร้างชื่อ และทำงานให้กับชอว์บราเดอร์ แต่เหอเมิ่งหัว ไม่ได้โด่งดังในทางกังฟู หรือกำลังายใน อย่างจางเชอะเพื่อนร่วมรุ่น เหอเมิ่งหัว ทำหนังหลากหลายแนว ทั้งหนังอาญากรรมตำรวจผู้ร้าย หรือหนังสยองขวัญประเภทมนต์ดำคาถา นับว่าเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องอย่างยิ่ง ที่เหอเมิ่งหัว ถูกเลือกให้มากำกับงานชิ้นนี้ เขาสามารถนำมุมมองใหม่ มาสู่หนังกังฟู กำลังภายใน ได้ดีทีเดียว หนังอาจจะมีปัญหาอยู่บ้างเล็กน้อย

องค์ประกอบที่สำคัญที่ เหอเมิ่งหัว ใส่ลงไปใน The Flying Guillotine ก็คือความสมจริง ที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดก็คือ ฉากต่อสู้ ถึงแม้จะมีเนื้อหาว่าด้วยอาวุธสุดพิศดาร เหอเมิ่งหัว กลับเลือกที่จะสร้างฉากต่อสู้ในหนังให้ดู สมจริงปกติธรรมดาอย่างที่สุด ตัวละครพะบู๊กัน ด้วยท่าทางที่ธรรดาสามัญมากๆ เตะต่อย กันตามสัญชาติญาน แห่งการต่อสู้ และเอาชีวิต ไม่มีการเหาะหิรเดินอาการ ออกกำลังภายใน หรือห่ำหั่นกันด้วยท่วงท่าวิจิตรพิศดารใดๆ

แม้กระทั่งอาวุธ จักรโลหิต ที่ดูค่อนข้างแฟนตาซี แต่เหอเมิ่งหัว ก็พยายามถ่ายทอดอาวุธชิ้นนี้ออกมา โดยไม่ให้หลุดออกจาก โลกแห่งความเป็นจริงเกินไปนัก แน่นอนว่าอุปกรณ์เหล็ก ที่ดูเหมือนจะหนักเป็นร้อยกิโลอย่างนี้ ล่อยละล่องกันเหมือนจานบิน และควบคุมได้ประดุจเครื่องบินบังคับ ดูจะทำให้เชื่อได้ยากอยู่ไม่น้อย กระนั้นเหอเมิ่งหัว ยังพยายามสร้างความสมจริงให้กับอาวุธชิ้นนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉากสังหาร การฆ่าแกงดูจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นในหนังกำลังภายในแต่ The Flying Guillotine พยายามสร้างความตึงเครียด ความโหดเหี้ยมทารุณของการฆ่าแกง เน้นภาพการตัดคอด้วย จักรโลหิต ที่บั้นคอให้หลุดจากบ่า เลือดกระเซ็นเป็นสาย ขณะที่ร่างไร้วิญญาน ยังพยายามดิ้นรนเพื่อการมีชีวิตต่อไป แขนขายังคงวิ่งไปข้างหน้า มือไม้แกว่งไกว เหมือนไม่ยอมรับการลงทัณฆ์ เป็นภาพที่น่าสยดสยอง ภาพหนึ่งแห่งวงการหนังกำลังภายในเลยก็ว่าได้

ความสมจริงอีกประเภทที่พบเห็นได้ใน The Flying Guillotine ก็คือ ความลึกซึ้งตัวละคร ไม่มีจอมยุทธทรงคุณธรรม ไม่มีจอมมารแห่งยุทธภพ The Flying Guillotine เสนอภาพแห่งคน ธรรมดา ที่การรักษาชีวิตเป็นเพียงอุดมการณ์เดียว ที่ต้องรักษา เช่นเดียวกับ ตัวละครมือสังหารในเรื่อง ก็ไม่ได้ถ่ายทอดเฉพาะภาพแห่งความโหดเหี้ยม ยังให้ภาพของการชิงดีชิงเด่นในกลุ่มเพื่อน หรือ หวาดกลัว ต่อภาพความตายที่ตัวเองเป็นผู้ก่อ ของเหล่านักฆ่าผู้เลือดเย็น

เฉินกวนไท้ ดูจะไปได้ดีกับบทพระเอกในเรื่อง ที่ดูเป็นคนธรรมดาติดดินดี แต่คนที่ขโยมความเด่น ในหนังไปกลับเป็นดาราที่รับบทร้ายสองคนอย่าง กุ๊ฟง กับบท หัวหน้ากลุ่มมือสังหารสุดโฉด ที่ดูค่อนข้างมีมิติผิดจากตัวละครประเภท นี้ทั่วๆ ไป กลับให้ภาพความ ความวิตกจริต หวาดระแวง กับหน้าที่รับผิดชอบอันชั่วร้ายที่ตัวเองได้รับ บทของกุ๊ฟง ทั้งดูน่ารังเกียจ ปนน่าอะเน็จอนาจไปพร้อมๆ กัน ในทางตรงกันข้าม กับบทองค์จักรพรรดิ์หยงเจิ้น ที่รับบทอย่างยอดเยี่ยม โดย เจียงหยาง เหนือหัวผู้โหดเหี้ยมเย็นชา แต่แสดงออกถึงพลังบารมีออกมาทุกรูขุมขน

ภาพของจักรโลหิต อาจนำมาซึ่งความคาดหวัง หนังกังฟูที่โหดเหี้ยมสุดๆ หรือกระทั่งบ้าบอ แฟนตาซี (ซึ่งมีให้ดูกันแบบเต็มๆ ในหนังกังฟูสุดบ้าคลั่งของหวังหยู่เรื่อง The Master of Flying Guillotine) แต่งานของเหอเมิ้งหัว กลับพยายาม สร้างความจึงจังให้กับอาวุธชนิดนี้ ด้วยการเสนอภาพความตาย อันโหดเหี้ยม ด้วยท่าทีที่จริงจัง

  • Credits
    บริษัทผู้สร้าง –
    Shaw Brothers
    กำกับ – Hoh Mung-Wa
    อำนวยการสร้าง – Runme Shaw
    บทภาพยนตร์ – Ni Kuang
    กำกับภาพ – Cho Wai-Kei
    ตัดต่อ – Chiang Hsing-Lung
    ดนตรีประกอบ – Wang Fu-Ling
    กำกับศิลป์ – Johnson Tsao Chuang-Sheng
    ออกแบบเครื่องแต่งกาย – Liu Chi-Yu
    กำกับคิวบู๊ – Simon Chui Yee-Ang
    แสดงนำ – Chen Kuan Tai, Ku Feng, Wai Wang, Kong Yeung, Wong Yu, Lam Wai Tiu, Lau Ng Kei, Norman Chu Siu Keung, Lee Sau Kei, Ai Ti, Cheung Chok Chow, Chu Yau Ko, Fei Lian, Ho Hon Chau
  • Thailand Distribution – ชื่อไทยในการเข้าฉายคือ “ฤทธิ์จักร พญายม” ออกแผ่น DVD VCD โดย UHE
  • Related and Recommendations – The Flying Guillotine 2 (ภาคต่อ), The Master of Flying Guillotine, The Fatal Flying Guillotine (งานในประเภทเดียวกัน)
  • Rating – 4.5/5

3 ความเห็น

  1. สมยศ · เมษายน 27, 2008

    หนังดีอีกเรื่องนึงครับ

  2. สมยศ · พฤษภาคม 8, 2008

    อ่อ
    อีกอย่างนึง
    ผมชอบนางเอกของเรื่องนี้มาก
    หน้าตาน่ารักดี แสดงใช้ได้ด้วย
    แต่ผมไม่ทราบชื่อ 55

    จริงครับ
    ฉากที่จักรโลหิตบั้นคอเหยื่อนี่
    สมจริงสมจังจนน่ากลัวเอามากทีเดียว
    เรื่องนี้ยังนับว่ามีความเป็นหนังมากกว่าหนังเวอร์ชั่นของหวังอยู่นะครับ
    อันนั้นนี่ กลิ่นคัลต์จัดและโชยหึ่งทีเดียวเชียว
    55

  3. mihk2002 · พฤษภาคม 11, 2008

    ชอบนางเอกของเรื่องเหมือนกันครับ แต่เช็คดูแล้วรู้สึกเธอจะเด่นสุด อยู่เรื่องนี้คือ The Flying Guillotine นี่เอง

ใส่ความเห็น