วงการหนังฮ่องกงนั้นค่อนข้าง ห่างไกลจากหนังแนววิทยาศาสตร์มากที่สุด เหตุผลงานก็คือ นักทำหนังชาวฮ่องกงดูจะ บกพร่อง และล้มเหลวกับการสร้างตรรกะแบบวิทยาศาสตร์ หรือาจจะพูดได้ว่า ไม่ค่อยถนัด กับการให้ความเป็นเหตุเป็นผลของเนื้อหา
เมื่อใดที่ฮ่องกงริจะทำหนังวิทยาศาสตร์ ผลก็มักจะออกมาสองทาง ถ้าเป็นแนวจริงจังกับชีวิต เนื้อหาก็จะออกมางงงวยชวนเวียนหัว กับตรรกะที่ดูมั่วๆ พิกล (ดูตัวอย่างได้จากหนัง Amageddon, The Wicked City) ส่วนอีกแนวทางก็คือ โยนความเป็นเหตุเป็นผลที่ว่าทิ้งไปซะ หันมาหาความเป็นแฟนตาซี สนุกสนาน ไม่ต้องสนใจเนื้อหาสาระอะไรมากมาย ซึ่ง I Love Maria ก็เข้าข่ายประเภทหลังที่ว่ามานี้
กลุ่มผู้ก่อการร้าย ที่เรียกตัวเองว่า “แก๊งฮีโร่” ที่ประกาศจะสร้างสันติสุขที่แท้จริงให้กับโลก บุกเข้าโจมตีฮ่องกง ด้วยอาวุธสุดไอเทค อย่างหุ่นยุนต์รบหมายเลข 1 หุ่นยนต์ ขนาดใหญ่ พวกมันก่อคดีปล้นธนาคารแบบอุกอาจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่สามารถจะทำอะไรได้แม้แต่น้อย โดยพวกมันประกาศให้ทางการฮ่องกง ยอมจำนนก่อนที่อีก 48 ชั่วโมงจะเกิดการโจมตีขั้นแตกหัก
กลุ่มแก๊งฮีโร่ ผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรง อันมีอุดมการอันแรงกล้า นำโดย หัวหน้าผู้เด็ดเดี่ยว (เบน หลิม) และมีผู้ช่วยเป็น นักสู้สาวสวย มาเรีย (เยี่ยเชี่ยนเหวิน) เป็นทั้งมือขวา และคู่รัก กลุ่มผู้ก่อการร้ายยัง ประกอบไปด้วยสมาชิกผู้เก่งกาจอีกมากมาย แต่กำลังสำคัญของกลุ่มก็คือ หุ่นเหล็กหมายเลข 1 ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับตำรวจไปก่อนหน้า และหุ่นเหล็กหมายเลขสอง (เยี่ยเชี่ยนเหวิน) หุ่นยนต์แอนดรอยรูปร่างผู้หญิง ที่มีรูปร่างหน้าตา เหมือนกัน มาเรีย ไม่มีผิด
วิสกี้ (ฉีเคอะ) หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อการร้าย คิดถอนตัว และหันหน้าให้กับขวดเหล้า กับการเมาหัวราน้ำทุกวัน เขาเติบโตมากับ มาเรีย มาตั้งแต่เด็ก และแอบหลงรักเธออยู่ลึกๆ เมื่อสาวเจ้ากลายเป็นของคนอื่น ก็ยากที่เขาจะทำใจได้
ในนำคืนหนึ่ง วิสกี้ เผาเวลาไปกับการดื่มเหล่าอย่างเช่นเคย เขาในสภาพที่เมามายได้ก่อเรื่องทะเลาะเบาแว้งกับอันทพาล แต่เป็นโอกาศที่ทำให้ได้พบกับ เพื่อนใหม่ หัวฟู (ปอมฟู) โดยบังเอิญ ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนซี้กับ วิสกี้ถึงได้ทราบภายหลังว่าแท้จริงแล้ว หัวฟูนั้นมีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่ สร้างอาวุธไอเทคของกรมตำรวจ เมื่อโจรกับตำรวจกลายเป็นเพื่อนซี้ นั้นเองสร้างความหวาดระแวงให้กับทั้ง กรมตำรวจ และกลุ่มโจร ว่าทั้งสองจะทรยศ และขายข่าวให้กับฝ่ายศัตรู ฝ่ายตำรวจพยายามเข้ากุมพวกเขา เช่นเดียวกับแก๊งฮีโร่ ก็ส่งหุ่นเหล็กหมายเลยสอง มาตามล่า ที่รอดมาได้ก็เพราะ เกิดอุบัติเหตุจนหุ่นหมายเลขสอง จนเกิดความเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้
วิสกี้ และหัวฟู หนีหัวซุกหัวซุนจากทั้งสองฝ่าย ไปยังที่ซ่อนตัว หัวฟู เก็บเอาซากหุ่นยนต์หมายเลข 2 มาด้วย และใส่โปรแกรมใหม่เข้าไป เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ ทั้งสอง และนักข่าวหนุ่มหัวเห็ด (เหลียงเฉาเหว่ย) ที่ติดตามข่าวเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ตกลงกับร่วมมือที่จะกำจัดแก๊งฮีโร่ให้จงได้
ฉีเคอะเป็นนักทำหนังชาวฮ่องกง ที่ถนัดนักกับการผสมผสานความเป็นฝั่งตะวันออก กับตะวันตก เข้าไวด้วยกัน เช่นการเล่าเรื่อง นิทานปรัมปราด้วยเทคนิคพิเศษแบบฮอลลีวูด ในงานชิ้นนี้ อิทธิพลจากฝั่งตะวันตกดูจะเข้มข้นอยู่ฝ่ายเดียว I Love Maria เป็นงานที่สร้าง อ้างอิงด้วยงานภาพยนตร์วิทยาศาสตร์หลายๆ เรื่อง ทั้งจาก คนเหล็ก ที่มากันทั้งภาคหนึ่ง ภาคสอง (The Terminator), Robocop, Back to the Future, เจมส์ บอด์น และการ์ตูนญี่ปุ่น เรียกว่า แต่ละเรื่องก็มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป มีทั้งเป็นอิทธิพลหลัก และบางส่วนก็ดูกันแทบไม่ทัน
แม่พิมพ์ที่ชัดเจนที่สุดสำหรับงานชิ้นนี้ เห็นจะเป็น หนังวิทยาศาสตร์คลาสสิคสุดอมติของเยอรมัน ที่ชื่อว่า Metropolis (1927, Fritz Lang) โดยเฉพาะกับตัวละครนางเอกหุ่นยนของเรื่อง ที่ฉีเคอะลอกเลียนมาจาก หุ่น Maria ในหนังเรื่องดังกล่าว ที่เขาก็ ไม่ได้ปิดปังอำพรางอะไร เพราะชื่อเรื่อง I Love Maria ก็คงเป็นการบอก และคารวะถึง Metropolis ไปกลายๆ
แต่ทั้งหมดทั้งมวล อิทธิพลต่อหนังวิทยาศาสตร์ต่างๆ ที่มีต่อ I Love Maria ก็คงจะจำกัดอยู่เฉพาะเรื่องการออกแบบงานสร้าง และอุปกรณ์ประกอบฉากเท่านั้น ส่วนเนื้อหาฉีเคอะแต่งขึ้นมาเอง ซึ่งดูแล้วนึกถึง เดชคัมภีร์เทวดา งานที่ฉีเคอะสร้างในปีเดียวกันนั้น อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ว่าด้วยมิตรภาพ ของ คนสองฝั่งดีกับเลว ฉีเคอะยังพยายามใส่เนื้อหา น่าสนใจจากคาเร็คเตอร์ของฝ่ายผู้ร้าย อย่างหัวหน้าตัวโกงที่เชิดชูความสมบูรณ์แบบต้องการจะเปลี่ยนโลก และทำแม้กระทั่งเปลี่ยนตัวเองเป็นหุ่นยนตร์ หรือการแย้งชิงความรักของหญิงสาว กับหุ่นยนต์ที่รูปร่างหน้าตาเหมือนตนเอง
อย่างไรก็ตามเนื้อหาที่ว่ามานั้นก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกเน้นอะไรซักเท่าไหร่ อย่างไร I Love Maria ก็ยังเป็นหนังฮ่องกงอยู่วันยังค่ำ เห็นหน้าตาปอมฟู ก็คงจะคาดเดาออกว่าหนังจะนำเสนอไปในทิศทางใหน I Love Maria ยังคงอุดมไปด้วย ฉากยิงตลกงี่เง่า ที่เล่นกันยืดยาว ประเภทเจ็บตัว อย่างมุขไฟช็อต ตกบันใดตีลังกา เนื้อหาดูสะเปะสะปะดีแท้
มีการใส่ฉากบู๊ดีเดือดเขามามากมาย ก็เป็นอีกสไตล์ของหนังตลาดฮ่องกงที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นฉากยิงปืน หรือต่อยดี ไม่น่าแปลกใจที่ดาราบู๊อย่าง หลินเจิ้งอิง และเบน หลิม ถูกวางตัวในบทประกอบหลักของเรื่อง เพราะหนังกะให้มาบู๊กันในตอนท้ายนี้เอง คิวบู๊ทั้งหลายในเรื่อง ถือว่าทำได้ตื่นเต้นตี โอเวอร์ไปบ้างก็ไม่ได้เสียหายอะไรเพราะแนวทางหนังปูมาให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ฉากต่อูสู้ที่มีหุ่นยนต์มาเกี่ยวข้อง ออกแบบมาใช้ได้มีการใช้อาวุธไอเทคเข้ามาเป็นสีสรรค์ เสียแต่ช่วงท้ายของหนัง ดูเหมือนผู้กำกับคิวบู๊เฉิงเสี่ยวตง จะสนุกกับการใช้ลวดสลิง พาตัวละครหุ่นสาวตัวเองของเรื่อง บินไปบินมา จนน่าเวียนหัวไปซักหน่อย
จุดเด่นที่สำคัญของเรื่องคงจะหนีไม่พ้น การออกแบบงานสร้าง ต่างๆ ที่ทำได้ดีดูมีระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ่นเหล็กทั้ง 3 ตัว อย่าง หมายเลข 1 ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจมาก ที่ดูไปดูมาแล้วก็นึกถึง หุ่นเหล็ก V.O.T.O.M. (การ์ตูนหุ่นยนของญี่ปุ่น) หรือ กันดั้ม อยู่เหมือนกัน ส่วนหมายเลขสองนางเอกของเรื่อง หุ่นแอนดรอยผู้หญิง ที่ภายนอกก็เข้าท่าดี แต่ในหนังจริงๆ ให้ความรู้สึกประมาณ สมศรี 422 R ไปซะหน่อย และสุดท้าย หุ่นเหล็กหมายเลข 3 ที่เป็นยักษ์หุ่นแบบคนนั่ง ขนาดใหญ่เบ้ง ดูน่าตื่นตาตื่นใจดี แต่คงทำได้ไม่ง่ายนัก เลยไม่ค่อยได้โชว์ตัวเต็มๆ ซักเท่าไหร่ ก็ถือว่าพยายามแล้วนะครับ
แน่นอนว่าเมื่อหุ่นยนต์ และเทคนิคพิเศษเป็นจุดเด่น ส่วนอื่นๆ ในหนังก็คงจะดูลดทอนความสำคัญไปบ้าง ไม่เว้นแม้กระทั่งดาราที่ร่วมแสดง ที่กลายสภาพเป็นตัวประกอบกันไปซะหมด พระเอกตัวจริงของเรื่องก็คือ ปอมฟู กับฉีเคอะ ในบทเพื่อนคู่หู ตำรวจผู้ก่อการร้าย ก็ถือว่าแสดงได้ดีตามปรกติ เหลียงเฉาเหว่ยดูเหมือนเด่นแต่ความจริงก็คือตัวประกอบโดยแท้ กับบทนักข่าวหนุ่มผู้ช่วยสองพระเอก ที่เหลือก็ลดหลั่นกันลงไป แต่ที่มีบทบาทมากที่สุด คนจดจำได้มากที่สุด คงจะหนีไม่พ้นดาราสาว เยี่ยเชี่ยนเหวิน ก็จะไม่ให้เด่นได้ยังไง เพราะเธอแสดงเป็นหุ่นยน ตัวเอกของเรื่องนั้นเอง
มองดูองค์ประกอบต่างๆ ถือว่า I Love Maria เป็นงานในระดับกลางๆ ของฉีเคอะ กลางทั้งความสนุก และกลางในด้านความคิดสร้างสรรค์ ส่วน งานสร้าง และเทคนิคที่น่าสนใจนั้น ได้ถูก “เวลา” ได้ทำให้ กลายเป็นงานที่เชย และตกยุกไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าได้ดูเมื่อสมัยที่หนังออกฉาย ก็ถือเป็นความติดตาประการหนึ่งเลยทีเดียว ส่วนถ้าดูในยุคนี้ ถ้ายอมรับกับความ เชย และตกยุคได้ I Love Maria ก็ช่วยค่าเวลาได้ดีไม่น้อยเลย
Credits
บริษัท – Film Workshop Co., Ltd.,
อำนวยการสร้าง – John Sham Kein
กำกับ – David Chung Chi Man, Tsui Hark
บทภาพยนตร์ – Tsui Hark
กำกับคิวบู๊ – Tony Ching Siu Tung
แสดงนำ – Sally Yeh, John Sham Kin-Fun, Tsui Hark, Tony Leung Chiu-Wai, Lam Ching-Ying, Lam Kwok-Bun, Paul Chun Pui, Dennis Chan Kwok-San, Kirk Wong Chi-Keung, David Wu Dai-Wai
Rating – 3.5/5
หนังเรื่องนี้ผมดูที่ฉายในโรงใช้ชื่อ กระห้ำ แล้วโลกจะรู้จักนะครับ